เหรียญหล่อ จอบใหญ่ หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน ของอิทธิ ชวลิตธำรง.
วันนี้ สนามพระของเรายังร้อนระอุไปด้วยเรื่องการเมือง หลังสภาโหวตนายกฯรอบแรกไปเมื่อ ๓ วันก่อน และจะโหวตรอบ ๒ ในวันที่ ๑๙–ระหว่างนี้ทุกพรรคการเมืองก็คุยกันทุกเวลานาที เพื่อเตรียมแผน ๒ แผน ๓ รองรับการโหวต และจัดตั้งรัฐบาล
ส่วนชาวพระเครื่องไม่เรื่องเยอะ ก็มาเดินเล่นในสนามพระให้สบายใจ เพราะสวยคือสวย แท้คือแท้ ไม่ต้องโหวตต้องแหวต เพราะโหวตให้ตายเก๊ก็ไม่กลายเป็นแท้
มีควันหลงหลังโหวตนายกฯ จากแฟนคลับสนามพระว่า ค่อนข้างโล่งใจ ที่พอพิธาได้คะแนนไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ก็ไม่มีม็อบลงถนนตามที่ห่วงกัน–ซึ่งก็ต้องให้เครดิตพรรคก้าวไกล ที่ไม่ใช่ขี้แพ้ชวนตี และไม่ใช้ (หวังว่า) วิธีต่อสู้ ที่สร้างความเดือดร้อนให้ประเทศชาติ
เข้าสนาม ดูองค์แรกคือ พระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์สังฆาฏิ วัดใหม่อมตรส แขวงบางขุนพรหม กรุงเทพฯ เป็นพิมพ์พระที่มีพบมากสุดตอนวัดทำพิธีเปิดกรุเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๐ แต่ถึงวันนี้ก็กลายเป็นน้อยไปแล้ว
…
และไม่ง่ายที่จะได้เจอพระแท้ดูง่าย องค์งามๆ สภาพสมบูรณ์เยี่ยมเดิมๆ อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยบอย โกพัด ที่เป๊ะทั้งฟอร์มทรง พิมพ์พระ ผิวเนื้อที่อุดมด้วยคราบฝ้า รากรุ ที่เป็นเอกลักษณ์
ด้านหลังองค์พระไม่มีรอยปั๊มองค์เจดีย์ “หมึกม่วง” จึงบอกได้ว่าเป็นพระที่ถูกจิ๊กออกจากกรุมาก่อนนั้น แต่คงไม่นานนัก เพราะเนื้อพระแก่ปูนแบบเดียวกับเนื้อพระที่นำขึ้นจากกรุอย่างเป็นทางการ–หลายคนเห็นแล้วจึงยกนิ้วให้เป็นพระแชมป์องค์ครู ได้ ๕ ดาว ไปอีกองค์
อีกองค์เป็น พระสมเด็จเกศไชโย พิมพ์ ๖ ชั้น อกตลอด วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ๑ ใน ๓ พิมพ์นิยมมาตรฐาน ของ เสี่ยต้น สุวรรณกร องค์นี้เป็นพระสภาพสมบูรณ์สวยเดิมๆ
ผิวเนื้อด้านหน้ามีรอยแตกปริแบบ “สังคโลก” ซึ่งเกิดจากความแห้งแกร่งของผิวเนื้อ ซึ่งมีพบน้อยองค์ ซึ่งมักจะเกิดขึ้นกับ พระเนื้อจัด ที่อุดมด้วยมวลสารอัดแน่นอย่างที่เห็นชัดเจนด้านหลัง–พระองค์นี้ ปัจจุบันได้รับความนิยม เป็น ๑ ใน ๓ พิมพ์มาตรฐาน ราคาหลักล้านต้นๆ
องค์ที่สาม คือ พระปิดตามหายันต์ (ยันต์ยุ่ง) เนื้อผงคลุกรัก วัดทอง เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ของ หลวงพ่อทับ ต้นตำรับวิชาสร้างพระปิดตามหายันต์ (ยันต์ยุ่ง) เนื้อโลหะผสม (สัมฤทธิ์) ที่ได้รับความนิยมอันดับ ๑
ด้วยแบบ พิมพ์พระปิดตาลอยองค์ ขึ้นหุ่น ประกอบรอบองค์ด้วยการขดเรียงเส้นอักขระเลขยันต์เต็มองค์ เทหล่อด้วยเนื้อโลหะผสมแบบโบราณ
แยกได้หลายแบบ องค์นี้ ของ เสี่ยอิทธิ ชวลิตธำรง เป็นชนิดเนื้อผงคลุกรัก สร้างพิเศษ สภาพสมบูรณ์สวยเดิมๆ ที่มีพบน้อยหาพบยากกว่าเนื้อโลหะมาก แบบว่าเนื้อโลหะหายากแล้ว เนื้อผงหายากกว่าเยอะ ตามที่พูดกันว่า เหนือฟ้า ยังมีฟ้า
อีกสำนัก เป็น เหรียญหล่อรูปเหมือน พิมพ์จอบใหญ่ หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ วัดบางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร เหรียญหล่อรูปจำลองพระเกจิอาจารย์ ที่ได้รับความนิยมสูงสุด
…
สร้างออกพร้อม พระรูปเหมือนหล่อโบราณพิมพ์นิยม ที่มีราคาค่าความนิยมอยู่ที่หลักล้านเหมือนกัน โดยเฉพาะองค์งามสภาพแชมป์เดิมๆ อย่างองค์นี้ ของ เสี่ยอิทธิ ชวลิตธำรง–ที่ประมาณว่าน่าจะอยู่ที่หลักล้านกลางถึงปลาย
ถัดไปคือ พระนาคปรกใบมะขาม เนื้อทองคำ ท่านเจ้าคุณสนิทสมณคุณ วัดโมลีโลกยาราม (ท้ายตลาด) เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ
ท่านเป็นชาวพระตะบอง ประเทศเขมร เมื่อปี พ.ศ.๒๓๙๖ อายุ ๘ ขวบ บรรพชาเป็นเณร เรียนอักขระอยู่ในสำนักพระธรรมโกษา วัดนรา เมืองพระตะบอง พอครบอุปสมบทก็มาศึกษาพระปริยัติธรรมที่สำนักวัดอรุณราชวราราม และวัดพระเชตุพนฯ
ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็น พระครูปัญญาคฑาวุธ ไปรับ ตำแหน่งเจ้าคณะเมืองพระ ตะบอง แล้วเลื่อนเป็น พระสนิทสมณคุณ ผู้ช่วยเจ้าคณะมณฑล
พอเราคืนเมืองพระตะบองกับเสียมราฐให้กัมพูชา ท่านจึงพา คณะศิษย์เข้ามาอยู่กรุงเทพฯ ในคราว เดียวกันกับ หลวงพ่อคง สุวัณโณ ที่แยกไปอยู่วัดซำป่างาม จ.ฉะเชิงเทรา ต่อมาท่านได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดโมลีโลกยาราม จนมรณภาพเมื่อปี พ.ศ.๒๔๖๓
…
เมื่อปี พ.ศ.๒๔๕๖ ในวันอายุครบ ๕ รอบ ท่านได้จัดสร้างพระนาคปรกใบมะขามเป็นที่ระลึก ลักษณะเป็นองค์พระปั๊มรูปทรงใบมะขามขนาดจิ๋ว ด้านหน้าเป็นองค์พระนั่งปางสมาธิราบ ภายในซุ้มนาค ๗ เศียร ที่ขดหางเป็นบัลลังก์ที่ประทับ ๓ ชั้น พุทธศิลป์สมัยลพบุรี
ด้านหลังเรียบ ส่วนใหญ่มีรอยลายมือลงเหล็กจารอักขระเลขยันต์ ด้านข้างมีเนื้อหนา มีรอยแต่ง เป็นเหรียญปั๊มตัดยุคเก่า เนื้อมีพบทั้งทองคำ เงิน ทองแดง
เนื้อทองคำ มีบันทึกว่าเป็นเนื้อทองคำจากตะกรุด ที่ท่านคาดเอวอยู่ ๓ ดอก และถอดให้ ศิษย์นำมาหลอมผสมเนื้อทองแดง ๒ ดอก นน.รวม ๒๐ บาท สร้างเป็นองค์พระทองคำผสมทองแดงออกสีนากหรือสีทองเค ได้รับความนิยมเป็นพระนาคปรกใบมะขามยอดนิยม อันดับ ๑ จิ๋วแต่แจ๋ว–องค์งามสมบูรณ์แท้ดูง่ายๆ แบบองค์นี้ ราคาอยู่ที่หลักล้านมานานแล้ว
…
ตามมาด้วย พระพิมพ์รูปเหมือน เนื้อผงพรายกุมาร หน้าเล็ก หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง พระพิมพ์เนื้อผงที่หลวงปู่ทิมสร้างขึ้นตามตำรับวิชาอาถรรพณ์ที่ท่านสำเร็จ
เป็นพระเครื่องยุคแรก เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๕ ตามความประสงค์คณะกรรมการวัด เพื่อนำมอบสมนาคุณผู้ร่วมบริจาคทรัพย์ทำบุญ ในงานผูกพัทธสีมาพระอุโบสถโดยดำริ หลวงปู่ทิม ที่ว่า “หากได้ผงพรายกุมารมหาภูต” มาผสมสร้างองค์พระจะมีความศักดิ์สิทธิ์มาก
ลูกศิษย์ยุคแรก ที่มีความรู้ในขั้นตอนการทำผงพรายกุมาร ตามคำสอนหลวงปู่ จึงปรึกษา นายหลาบ จ้อยเจริญ หรือ “หมอหลาบ” สัปเหร่อวัดละหารไร่ ให้หาหญิงตายทั้งกลม ในวันเสาร์ กำหนดเผาวันอังคาร เมื่อเผาแล้วให้ขอกะโหลกกุมารในครรภ์ มาทำ “ผงพรายกุมาร”
หาอยู่หลายเดือน เมื่อได้มา “หมอหลาบ” ได้นำห่อผ้าขาวไปเก็บไว้หลังองค์พระประธานในพระอุโบสถหลังเก่า ให้หลวงปู่ทิม ท่านทำพิธี ๗ วัน แล้วเก็บรักษาต่ออีกเกือบปี จนกะโหลกแห้งหมดกลิ่น จึงนำไปโขลก ตำ บดเป็นผงละเอียด แล้วนำไปผสมรวมผงวิเศษที่หลวงปู่มอบไว้ ผสานด้วยน้ำพระพุทธมนต์ ปั้นเป็นแท่ง ตากแดดจนแห้งสนิท
เมื่อถึงฤกษ์ยาม หลวงปู่เป็นประธานอาราธนาพระสงฆ์ ๙ รูป สวดเจริญพระพุทธมนต์ในพระอุโบสถหลังเก่า ใช้ แท่งผงพรายกุมาร เขียนอักขระเลขยันต์ลงบนกระดานชนวน แล้วลบเอาผง เป็นปฐมฤกษ์
หลังเสร็จพิธีหลวงปู่ทิมได้เก็บรวบรวมผงพรายกุมารสีน้ำตาลเข้มได้ ๑ กะละมังใหญ่ นำไปผสมในเนื้อพระที่ท่านสร้างเป็นแบบพิมพ์ต่างๆ
ได้แก่ พิมพ์พระสีวลี พิมพ์พลายเดี่ยว พิมพ์พลายคู่ พิมพ์รูป เหมือนเศียรโต พิมพ์รูปเหมือนเศียรเล็ก (มีทั้งแบบหลังเรียบ กับหลังยันต์ ๕) พิมพ์ขุนแผนใหญ่ พิมพ์ขุนแผนเล็ก–โดยในช่วงแรกสร้างเป็นพิมพ์พลายเดี่ยวกับพิมพ์พลายคู่ ซึ่ง หลวงปู่กดพิมพ์ด้วยตัวเอง
องค์นี้ ของ น.ท.กัณฑภณ ศุกระรงคะ ร.น. เป็นพระรูปเหมือน พิมพ์เศียรเล็ก หลังยันต์ ๕ สภาพสมบูรณ์สวยเดิม ที่มีสร้างไว้จำนวนน้อยมาก ปัจจุบันหากันมาก แต่หายากสุดๆ สภาพสมบูรณ์สวยเดิมแบบนี้ราคาถึงหลักแสนกลาง
รายการที่ ๗ ดู เหรียญหลัง ภปร เนื้อทองคำ พิมพ์ใหญ่ พ.ศ.๒๕๒๓ หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสงฆ์สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง เป็นเหรียญรุ่นสำคัญ ได้รับความนิยมสูง ด้วยความงามประณีตของบล็อกแม่พิมพ์ ที่ดูองค์ท่านเหมือนจริงราวมีชีวิต
และอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ ที่มีปรากฏเป็นประสบการณ์อัศจรรย์ ทั้งคุ้มภัยให้โชคแบบเล่ากันไม่หมด เหรียญนี้ ของ เสี่ยสุรพล คำป่าแลว เป็นเนื้อทองคำ สร้างตามจำนวนสั่งจอง ซึ่งตอนนี้ราคาอยู่ที่หลักแสนกลาง
องค์สุดท้ายเป็น พระปิดตา ไม้งิ้วดำ พ.ศ.๒๕๒๒ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ สร้างพิเศษด้วยเนื้อไม้งิ้วดำ ที่ศิษย์นำมาถวาย
จึงนำไปแกะเป็นองค์พระปิดตาได้ ๒๐๐ องค์ มอบให้วัดสบฝาง จ.เชียงใหม่ ออกให้สาธุชนทำบุญบูชา นำรายได้พัฒนาวัดเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๒
ปัจจุบันเป็น ๑ ในสกุลพระปิดตาหลวงปู่โต๊ะ ที่ได้รับความนิยมสูง ราคาหลักแสน องค์นี้ ของ เสี่ยอู๋ แบล็กเฮด ซึ่งเลี่ยมพลาสติก รักษาองค์พระอยู่ในสภาพสมบูรณ์สวยเยี่ยม
รู้ดีกว่าไม่รู้ ว่าไม้งิ้วดำ หรือ พญาไม้งิ้วดำ เป็นราชาแห่งไม้ เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ในตัว มีเทพารักษ์รักษา เป็นธนสิทธิ์ ที่โบราณาจารย์นิยมนำมาสร้างเป็นวัตถุมงคลเครื่องรางของขลัง โดยจะไปหาไม้งิ้วดำในป่าลึก และยิ่งยืนต้นตาย หรือตายพราย จะยิ่งขลัง และเมื่อปลุกเสกก็ยิ่งศักดิ์สิทธิ์
เนื้อไม้งิ้วดำแท้ น้ำหนักเบา แต่จมน้ำ จะดำเงา เนื้อละเอียด ขี้เลื่อยสีดำม่วง มีกลิ่นเหมือนพริกไทย ต่างจากไม้ดำอื่น เช่น ไม้มะเกลือ ที่เนื้อมีเสี้ยน ขี้เลื่อยออกดำเขียว ส่วนไม้ดำดง เนื้อจะด้าน
ลาไปลุ้นการโหวตนายกฯ ด้วยเรื่องปิดท้าย ในก๊วนนักนิยมพระเครื่องสายมู ๕-๖ คน ที่นัดชุมนุมกันที่ร้านกาแฟบ้านน้ำมนต์ ย่านบางพลัด
เสี่ยตี๋ มาถึงเลตสุด และท่าทางเฉื่อยชา หน้าตาซึมๆ พรรคพวกจึงทักว่า เฮียเป็นอะไรดูไม่สดใสเลย เสี่ยตี๋ ตอบเสียงอ่อยว่า นอนฝันร้ายว่ะ รู้สึกไม่ดีเลย
เพื่อนคนหนึ่งจึงแนะนำว่า งั้นพวกเราไปไหว้พระทำบุญกันไหม เอาสิริมงคลเข้าตัวจะได้สบายใจขึ้น ทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วย เสี่ยตี๋ ก็ยิ้ม ขนทุกคนขึ้นรถพาไปทำบุญไหว้เจ้าที่ศาลเจ้าแม่ทับทิม ที่อยู่ไม่ไกล ฝ่ารถติดในการก่อสร้างถนนราว ๑ ชม. ก็ถึงศาลเจ้า ก็เข้าไปสักการะ จุดธูปเทียน เผากระดาษเงิน กระดาษทอง บูชาทุกสเต็ปตามเจ้าหน้าที่แนะนำ ก็กลับออกมานั่งที่ร้านขนมจีน (ไหหลำ) หน้าศาล ได้ทำบุญสบายใจกันแล้ว ทุกคนก็ดูแจ่มใส โดยเฉพาะ เสี่ยตี๋ หายเครียดทันที บอกว่า ทำบุญนิดหน่อย ซื้อเครื่องไหว้ถวายเจ้าแม่แล้วสบายใจจริง
แต่อีกคนในก๊วนทำหน้าเครียดบอกว่า ผมจ่ายไปมาก แต่ไม่ค่อยสบายใจ เสี่ยตี๋ จึงค้านทันทีว่า มากอะไร ค่าทำบุญเครื่องบูชาราคาแพงสุดไม่ถึงพันบาท
คนบ่นตอบว่า ป่าว ไม่ได้พูดถึงค่าเครื่องบูชา แต่หมายถึงค่าลอตเตอรี่หน้าศาล ที่เจอเลขที่ฝันพอดี แต่กลัวตีไม่ถูก เพื่อไม่ให้เสียชื่อสายมูเลยซื้อไปครึ่งแผง เจ้าค่ะ อามิตตพุทธ.
สีกาอ่าง
เครดิต : ไทยรัฐ